พูดถึง Google คงไม่มีใครไม่รู้จัก และเราก็ใช้ผลิตภัณฑ์ของพี่กูในเกือบทุกๆวันเลยกว่าได้ ทั้ง YouTube, Gmail, Chrome หรือ Maps เป็นต้น แต่นอกเหนือจากนี้ Google ยังมีผลิตภัณฑ์อีกมากมายที่เราไม่เคยใช้และไมคุ้นหน้าคุ้นตา และก็มีหลายผลิตภัณฑ์ของ Google เช่นกันที่ไม่ได้ถูกพัฒนาต่อ เนื่องจากปัจจัยหลายอย่าง เช่นมีคู่แข่งที่ทำได้ดีกว่า คนไม่นิยม เป็นต้น และพี่กูก็ไม่ลังเลที่จะปิดมันไปซะ
ล่าสุด Dana Fried หัวหน้าทีมพัฒนา Google Chrome
ได้โพสต์ภาพบนแอ็คเคาท์ทวิตเตอร์ส่วนตัว เป็นภาพของป้ายหลุมศพที่ตกแต่งขึ้นสำหรับต้อนรับวันฮาโลวีน แต่ชื่อบนป้ายเหล่านี้ กันชื่อของผลิตภัณฑ์ของ Google ที่ไม่ได้ไปต่อ ก็คือตายไปแล้วนั่นเอง ดูจากภาพจะมีทั้งหมด 6 ศพ ดังนี้
สามศพแรกคือ Google+, Google Buzz และ Orkut สามแพล็ตฟอร์มโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค ที่พี่กูก็ตัดสินใจฆ่าทิ้งไป, Google Wave ที่เป็นแพล็ตฟอร์มลักษณะของ Online Co-working, Picasa สำหรับจัดการและตกแต่งรูปภาพ และ Google Reader ที่ใช้เก็บข่าวสารข้อมูลจากเว็ปไซต์ต่างๆ เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องไปค้นหาข่าวตามเว็ปต่างๆให้ยุ่งยาก
จะหาว่าโหดร้ายก็ไม่ได้ Google มีเหตุผลที่จะเป็นที่จะต้องหยุดผลิตภัณฑ์เหล่านี้ อย่างสามโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คแพล็ตฟอร์ม ก็พ่ายให้กับ Facebook, Twitter และ IG อย่างราบคาบ(Google+ ป้ายหลุมศพใหญ่สุด คงจะเจ็บปวดที่สุด), Picasa ที่ไม่ได้ตายเปล่า เพราะมี Google Photo มาแทนที่ ขณะที่ Google Wave ก็ถุกแทนที่ด้วย Google Drive. แต่สำหรับ Google Reader เหตุผลดีๆก็คงจะเป็น การเข้าถึงผู้คนที่มากกว่าของ Social Network และฟีตข่าวของพี่กู ที่ทำงานในลักษณะคล้ายกันล่ะมั้ง
เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานเหตุการณ์ตะลึงชวนหัวในโลกออนไลน์ประเทศใต้หวัน หลังชาวทวิตเตอร์รายหนึ่งตาดี สำรวจภาพถนนในโปรแกรม Google Street view ซึ่งให้บริการบันทึกภาพเส้นทางถนนแบบ 360 องศา ปรากฏว่าเขาเจอภาพที่ไม่คาดคิดจากกล้องรถของ Google จับภาพไว้ได้
“ฉันดู Google เพื่อดูว่าฉันพบสัตว์บางชนิดหรือไม่ แต่กลับพบเจอกับสิ่งที่น่าอัศจรรย์นี้อย่างไม่คาดฝัน!”
โดยปรากฎเป็นภาพคู่รักคู่หนึ่งในสภาพเปลือยเปล่ากำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่ริมถนน Shantian เมืองไถจง ของไต้หวัน แม้แต่เจ้าตัวเองอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังกลายเป็นดาวดังในโลกออนไลน์ หลังทวิตเตอร์ดังกล่าวถูกทวีตออกไปอย่างแพร่หลาย
ด้านบริษัทกูเกิ้ลระบุว่า ยืนยันที่จะปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด และล่าสุดภาพนี้ได้ถูกลบออกไปแล้วหลังตรวจพบว่าละเมิดนโยบายของบริษัท
Fortnite ถูกยื่นฟ้อง ข้อหาสร้างมาให้ผู้เล่น “ติด” แถมถูกเปรียบเหมือน โคเคน
อยู่ดีๆก็ตกเป็นผู้ต้องหาสำรหรับ Fortnite เกมส์ออนไลน์อันกับหนึ่งของโลก ที่ตอนนี้ฟ้องร้องโดยกลุ่มคนบางหลุ่มในข้อหาทำเกมส์ออกมาให้ผู้คนติดงอมแงม แถมยังมีการเปรยว่าเกมส์ Fortnite เป็นเหมือนโคเคน
โดยสำนวนคดีดังกล่าวถูกยื่นสู่ The Superior Court of Quebec ศาลสูงสุดแห่งเมือน Quebec ประเทศแคนนาดา โดยโจทย์ยื่นฟ้องไปยังเจ้าของ Fortnite อย่าง Epic Games กล่าวหาว่า Epic Games ทำเกมส์ Fortnite ออกมาเพื่อล่อให้คนติดโดยเฉพาะ ถึงกับขนาดผู้เล่นต้องมองหาหนทางรักษาอาการติดกันเลยทีเดียว โดยบางส่วนระบุว่า “การติดเกมส์ Fortnite ส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้เล่นจริงๆ หลายคนถึงกับไม่กินข้าว ไม่อาบน้ำและไม่เข้าสังคม”
Jean-Philippe Caron นักกฏหมายผู้นำสำนวนคดีนี้ขึ้นสู่ศาลบอกกับ AFP ว่า ผู้ผลิตเกมส์ได้มีการเกณฑ์นักจิตวิทยาเข้ามาช่วยในการสร้างเกมส์เพื่อให้ผู้เล่านติด เขายังบอกอีกว่า Epic Games ผิดที่ไม่มีการเตือนผู้เล่นเกี่ยวกับความเสี่ยงและอันตรายในเกมส์ Fortnite. อย่างไรก็ตาม ทาง Epic Games ก็ยังไม่มีการออกมาตอบโต้แต่อย่างใด.
Fortnite เกมส์ประเภท battle royale ที่ให้ผู้เล่น 100 คน กระโดดร่มเข้าไปติดอยู่ในเกาะ และต้องเอาชีวิตรอดให้เหลือคนสุดท้าย, เกมส์ถูกปล่อยออกมาเมื่อปี 2017 และตอนนี้เรียกได้ว่าเป็นเกมส์ที่ดังที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ ด้วยจำนวนผู้เล่นทั่วโลกกว่า 250 ล้านคน และด้วยอนิสงค์ของ Fortnite ทำให้ตอนนี้ Epic Games มีมูลค่าทางการตลาดอยู่ที่ประมาณ $15,000 ล้านเหรียญฯ คิดเป็นเม็ดเงินบ้านเราก็ประมาณ…………คิดเอาเอง
สื่อต่างประเทศรายงานว่า Samsung และ Sony หยุดสายการผลิตสมาร์ทโฟนในเมืองจีน ด้วยปัญหาคู่แข่งที่เพิ่มมากขึ้น ค่าแรงงานที่เพิ่มขึ้นและเศรษฐกิจที่ซบเซาลง โดยเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ Samsung ก็ได้มีการปิดโรงงานในเมืองฮุยโจ และเหลือไว้เพียงแห่งเดียว และล่าสุดก็ได้มีการสั่งปิดโรงงานดังกล่าวแล้ว
อีกฟาก Sony ก็ออกมาบอกว่า กำลังจะมีการสั่งปิดโรงงานผลิตสมาร์ทโฟนในปักกิ่งเร็วๆนี้ และจะผลิตในประเทศไทยเท่านั้น ขณะที่ Apple ยังคงมีฐานผลิตหลักอยู่ที่จีนเหมือนเดิม ถึงแม้จะมีเรื่องนโยบายภาษีนำเข้าจากทรัมป์คอยกวนใจอยู่ก็ตาม
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง