ฉาวอีกแล้ว หลังจากที่ ทนายเปรู มี เซ็กส์โชว์ออกกล้อง ขณะกำลังไต่สวนออนไลน์ สร้างความสับสนให้กับผู้พบเห็น เมื่อวันที่ 30 มกราคม สำนักข่าว เดลี่เมลล์ รายงานถึงเหตุการณ์ฉาวที่ประเทศเปรูขึ้น หลังจากที่นาย เฮ็กตอร์ ซิปริอาโน ปาเรเดส โรเบิลส์ ได้เริ่มบรรเลงเพลงรักกับหญิงสาวปริศนา ในระหว่างการไต่สวนออนไลน์ ในคดีแก๊งอาชญากรรมท้องถิ่น ท่ามกลางความสับสนของผู้เข้าร่วมคดีความ เนื่องจาก นายเบิลส์ลืมปิดกล้อง
โดยผู้พิพากษาคดีดังกล่าวได้รีบส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปยุติเหตุการณ์ดังกล่าวทันที
พร้อมพยายามส่งสัญญาณให้ทนายฉาวคนดังกล่าวรับรู้ว่าการฟีเจอร์ริงของเขาและหญิงคนนี้กำลังออกอากาศไปทั่วประเทศ แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ศาลตัดสินใจยุติการไต่สวนทันที โดยระบุว่า โรเบิลส์ หมิ่นเกียรติศาล พร้อมระบุว่านายโรเบิลส์เป็นชายที่ไม่ให้เกียรติศาล และไม่ให้ความเคารพผู้ร่วมการไต่สวน และ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมายทุกคน
ด้านเจ้าหน้าที่จากศาลยืนยันว่ากล้องดังกล่าวเป็นของนาย โรเบิลส์ ซึ่งศาลได้สั่งให้มีการตรวจสอบเพิ่มเติม ทั้งนี้ยังไม่มีการระบุตัวตนถึงหญิงที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ก่อเหตุ โดยสื่อท้องถิ่นระบุว่าเป็นลูกความของเขา
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์ในแบบดังกล่าวขึ้น โดยเมื่อปีที่แล้ว นักการเมืองอาร์เจนตินา ประกาศลาออกจากตำแหน่งหลังมีกล้องจับภาพของเขาประพฤติไม่เหมาะสม ขณะกำลังประชุมสภาออนไลน์
ซึ่งนอกจากประชาชนแล้ว เจ้าหน้าที่แพทย์จำนวนหนึ่งได้ออกมาติดโบว์ดำเพื่อต่อต้านการรัฐประหาร และแพทย์อีกจำนวนหนึ่งระบุว่าจะหยุดปฏิบัติหน้าที่เพื่อกดดันให้รัฐบาลปล่อยตัวนาง อองซานซูจี โดยขณะนี้ประเทศเมียนมากำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างรุนแรง และมีผู้ติดเชื้อสะสมนับแสนราย
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กองทัพเมียนมาได้ก่อรัฐประหารและเข้าควบคุมตัวนาง อองซานซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา ในข้อหาโกงการเลือกตั้ง หลังจากที่เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยหรือเอ็นแอลดีชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย
จากการก่อรัฐประหารครั้งนี้ทำให้ผู้นำหลายประเทศทั่วโลกออกประณามการกระทำของกองทัพเมียนมา
เผย วัคซีน สปุตนิก ไฟว์ ประสิทธิภาพ ต้านโควิด 91%
สปุตนิก ไฟว์ วัคซีนต้านโควิด-19 สัญชาติรัสเซียมี ประสิทธิภาพ ต้านโควิดร้อยละ 91 เร่งศึกษาเพิ่มเติมเพื่อเข้าใจวัคซีนให้มากขึ้น
เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ สำนักข่าว CNN รายงานว่า จากการวิเคราะห์เบื้องต้นพบว่า สปุตนิก ไฟว์ วัคซีนต้านโควิด-19 สัญชาติรัสเซียมีประสิทธิภาพกับผู้ป่วยโควิดที่ไม่แสดงอาการร้อยละ 91.6 และมีประสิทธิภาพกับผู้ป่วยที่แสดงอาการอย่างสมบูรณ์แบบ
หลังจากที่ได้ทำการทดลองเฟสที่ 3 กับอาสาสมัครเกือบ 2 หมื่นคน โดยในจำนวนดังกล่าวมีอาสาสมัครที่อายุมากกว่า 60 ปีรวมอยู่ด้วย ซึ่งรายงานระบุว่าวัคซีนสามารถทำงานได้ดีและมีประสิทธิภาพกับอาสาสมัครกลุ่มดังกล่าวเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ในรายงานยังระบุอีกว่ายังไม่พบผู้รับวัคซีนได้รับผลกระทบจากวัคซีนอย่างรุนแรง โดยส่วนมากจะพบว่ามีอาการเหมือนไข้หวัด และ อ่อนเพลีย
อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่แพทย์ระบุว่าพวกเขายังคงต้องทำการศึกษาวัคซีนชนิดนี้เพิ่มเติม เพื่อทำความเข้าใจกระบวนการรับมือกับผู้ป่วยโควิดที่ไม่แสดงอาการ และตรวจสอบว่าภูมิคุ้มกันสามารถอยู่ได้นานเท่าใด โดยทางนักวิทยาศาสตร์ตั้งเป้าจะทำการทดลองวัคซีนกับอาสาสมัครกว่า 4 หมื่นคน
วัคซีน สปุตนิก ไฟว์ เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก หลังจากที่ทางการรัสเซียอนุมัติใช้วัคซีนชนิดดังกล่าว เมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แม้ว่าการทดลองวัคซีนในเฟสที่ 3 จะยังไม่เสร็จสิ้นก็ตาม
ในปัจจุบันหลายประเทศได้อนุมัติการใช้วัคซีนดังกล่าว ซึ่งนอกจากรัสเซียที่เป็นผู้ผลิตแล้ว เบลารุส, อาร์เจนตินา, เซอร์เบีย, เวเนซุเอลา, UAE, ฮังการี ฯลฯ ได้อนุมัติให้ใช้วัคซีนชนิดดังกล่าวแล้ว ขณะนี้มีประชาชนเข้ารับวัคซีนนี้แล้วกว่า 2 ล้านคน
เจฟฟ์ เบซอส CEO ของบริษัทอเมซอนได้ออกมาประกาศว่าเขาเตรียมลงจากตำแหน่ง ขณะที่อเมซอนทำเงินอื้อในปีที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ สำนักข่าว CNN รายงานว่า นาย เจฟฟ์ เบซอส ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ CEO ของบริษัทอเมซอน ประกาศเตรียมลงจากตำแหน่งในช่วงไตรมาสปีที่สามของปีนี้ หลังจากที่เขาเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท มาตั้งแต่ช่วงก่อตั้ง หรือเมื่อราวๆ 27 ปีที่แล้ว
โดยนาย แอนดี้ แจสซี หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการคลาวด์ของอเมซอน จะเข้ามารับตำแหน่งแทน ส่วนนายเบซอสจะย้ายไปดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดบริหารของอเมซอนแทน ซึ่งนายแจสซีทำงานกับอเมซอนตั้งแต่ปี 2541
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง